ReadyPlanet.com
dot
Our Product by SilkLeaf
dot
bulletCatalogue
bulletProducts
dot
บ้านนี้มีอะไร
dot
bulletBreastfeeding/Baby
bulletBaby Wearing/Baby Sling
bulletBe Happy-Food/Herb
bulletBusy Busy please relax
bulletPregnancy/Birth/Mamy
bulletProfessional
bulletประชุม สัมมนา
bulletแนะนำหนังสือ
dot
อยากรู้ต้องอ่าน / สนับสนุน
dot
bulletLact Med.Search-Medication & BF
bulletมูลนิธิส่งเสริมการคลอดและเลี้ยงลูกด้วยนมแม่แห่งประเทศไทย
bulletInternational Lactation Consultant Association:ILCA
bulletIBLCE
dot
BLOG
dot
bulletBirth a Baby BLOG in Thai
bulletBreastfeeding BANGKOK BLOG in English
dot
ขอข้อมูลเพิ่มเติม

dot
dot
E-Learning
dot
bullet เรียน online-Stanford's short course on Breastfeeding
bullet เรียน online-U of Minnesota center of spiritual
bulletเรียน online USAID Global Health E-learning Center
bulletเรียน online กับ มหาวิทยาลัยCornell เรื่อง Nutrition
bulletเรียนonline กับOpen2Study Australia
bulletเรียนOnlne กับ Health e-learning Free
bulletเรียนonline Gold Lactation Conferences
dot
Online Journal
dot
bulletJournal of Neonatal Nursing
bulletMIDIRS/ Midwifert Digest
bulletJournal of Midwifery & Women's Health
bulletBritish Journal of Midwifery
bulletWomen and Birth Journal
bulletJournal of Human Lactation
bulletPediatrics
bulletThe Royal College of Midwives:RCM publication
bulletBirth Journal
dot
Resource
dot
bulletMidwifery Today
bulletThe Rainbow Room
bulletInfant Risk Center
dot
องค์กรด้านสุขภาพและครอบครัว
dot


มูลนิธิส่งเสริมการคลอดและเลี้ยงลูกด้วยนมแม่แห่งประเทศไทย
BAMBI:A Project of Childbirth&Breastfeeding Foundation of Thailand
Thai Breastfeeding Center
Hale Publishing
Rainbow Room
สมาคมพยาบาลนมแม่ประเทศไทย


สมุนไพรขับน้ำนม-กล้วย

ชื่อวิทยาศาสตร์  Musa ABB cv. Kluai 'Namwa'

ชื่อสามัญ  Banana

วงศ์  Musaceae

ชื่ออื่น :  กล้วยมะลิอ่อง (จันทบุรี) กล้วยใต้ (เชียงใหม่, เชียงราย) กล้วยอ่อง (ชัยภูมิ) กล้วยตานีอ่อง (อุบลราชธานี)

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ : ไม้ล้มลุก สูงประมาณ 3.5 เมตร ลำต้นสั้นอยู่ใต้ดิน กาบเรียงเวียนซ้อนกันเป็นลำต้นเทียม สีเขียวอ่อน ใบ เป็นใบเดี่ยวขนาดใหญ่ ออกเรียงสลับ รูปขอบขนาน กว้าง 25-40 ซม. ยาว 1-2 เมตร ปลายใบมน ขอบใบเรียบ แผ่นใบเรียบ สีเขียว ด้านล่างมีนวลสีขาว เส้นใบขนานกันในแนวขวาง ก้านใบเป็นร่องแคบ ดอก ออกเป็นช่อที่ปลายยอดห้อยลง เรียกว่า หัวปลี มีใบประดับขนาดใหญ่หุ้มสีแดงเข้ม เมื่อบานจะม้วนงอขึ้น ด้านนอกมีนวล ด้านในเกลี้ยง ผล รูปรี ยาว 11-13 ซม. ผิวเรียบ ปลายเป็นจุก เนื้อในมีสีขาว พอสุกเปลือกผลเป็นสีเหลือง เนื้อมีรสหวาน รับประทานได้ หวีหนึ่งมี 10-16 ผล บางครั้งมีเมล็ด เมล็ดกลม สีดำ
ส่วนที่ใช้ :
หัวปลี  เนื้อกล้วยน้ำว้าดิบ หรือห่าม กล้วยน้ำว้าสุกงอม ราก ต้น ใบ ยางจากใบ

สรรพคุณ :

  • ราก - แก้ขัดเบา

  • ต้น - ห้ามเลือด แก้โรคไส้เลื่อน

  • ใบ - รักษาแผลสุนัขกัด ห้ามเลือด

  • ยางจากใบ - ห้ามเลือด สมานแผล

  • ผล - รักษาโรคกระเพาะ แก้ท้องเสีย ยาอายุวัฒนะ แก้โรคบิด รักษาแผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก แก้ริดสีดวง

  • กล้วยน้ำว้าดิบ - มีฤทธิ์ฝาดสมาน ใช้แก้อาการท้องเดิน แก้โรคกระเพาะ และอาหารไม่ย่อย

  • กล้วยน้ำว้าสุกงอม - เป็นอาหาร ยาระบาย สำหรับผู้ที่อุจจาระแข็ง หรือเป็นริดสีดวงทวารขั้นแรกจนกระทั่งถ่ายเป็นเลือด

  • หัวปลี - (ช่อดอกของต้นกล้วย จำนวนไม่จำกัด) ขับน้ำนม

วิธีและปริมาณที่ใช้ :

  • ขับน้ำนม - ใช้หัวปลีแกงเลียงรับประทานบ่อยๆ หลังคลอดใหม่ๆ

  • แก้ท้องเดินท้องเสีย
    ใช้กล้วยน้ำว้าดิบหรือห่ามมาปอกเปลือก หั่นเป็นชิ้นบางๆ ใส่น้ำพอท่วมยา ต้มนานครึ่งชั่วโมง ดื่มครั้งละ 1/2 - 1 ถ้วยแก้ว ให้ดื่มทุกครั้งที่ถ่าย หรือทุกๆ 1-2 ชั่วโมง ใน 4-5 ชั่วโมงแรก หลังจากนั้นให้ดื่มทุกๆ 3-4 ชั่วโมง หรือวันละ 3-4 ครั้ง

สรรพคุณเด่น :

  • แก้โรคกระเพาะ ท้องผูก
    1. แก้โรคกระเพาะ - นำกล้วยน้ำว้าดิบ (ถ้าเป็นกล้วยกักมุกดิบจะดีกว่า) มาปอกเปลือก แล้วนำเนื้อมาฝานเป็นแผ่นบางๆ ตากแดด 2 วันให้แห้งกรอบ บดเป็นผงให้ละเอียด ใช้รับประทาน ครั้งละ 1-2 ช้อนโต๊ะ ละลายน้ำข้าว น้ำผึ้ง (น้ำธรรมดาก็ได้) รับประทานก่อนอาหารครึ่งชั่วโมง และก่อนนอนทุกวัน
    2. แก้ท้องผูก - ให้รับประทานกล้วยน้ำว้าสุกงอม ครั้งละ 2 ผล วันละ 3 ครั้ง ก่อนอาหาร 1/2 ชั่วโมง เวลารับประทานควรเคี้ยวให้ละเอียดที่สุด
    3. แก้ท้องเดิน - ใช้เนื้อกล้วยน้ำว้าห่ามรับประทาน หรือใช้กล้วยน้ำว้าดิบ ฝานเป็นแว่น ตากแห้งรับประทาน

สารเคมีที่พบ :

  • หัวปลี  มีธาตุเหล็กมาก

  • หัวปลี และราก มี Triterpene หรือ Steroid
    ผลกล้วย ทุกชนิดประกอบด้วย น้ำ แป้ง โปรตีน ไขมัน เส้นใย เกลือแร่ต่างๆ (โดยเฉพาะแคลเซียม เหล็ก และโปรแตสเซียมในกล้วยหอมมีมาก) วิตามิน และเอนไซม์ต่างๆ นอกจากนี้ยังมี
    Serotonin Noradrenaline และ Dopamine

  • ผลดิบ มีแป้ง Tannin acid, Gallic acid และ Pectin มาก

  • กล้วยหอมสุก ให้กลิ่น และรสของ Amyl acetate, Amylbutyrate Acetaldehyde, Ethyl alcohol และ Methyl alcohol

  • น้ำยาง มี Pelargonidin, Cyanidin, Delphinidin Palonidin Petunidin และ Malvidin

ประโยชน์ทางยาของกล้วยหอม
          กล้วยหอมเป็นผลไม้ รสหวาน เย็น ไม่มีพิษ สารอาหารที่สำคัญๆ ในกล้วยหอม ได้แก่ แป้ง โปรตีน ไขมัน น้ำตาล วิตามินหลายชนิด จัดเป็นผลไม้บำรุงร่างกายดี นอกจากนี้กล้วยหอมยังสามารถใช้รักษาโรคได้หลายชนิด เช่น เป็นยาทำให้ปอดชุ่มชื่น แก้กระหาย ถอนพิษ นอกจากนี้ยังพบว่า มีฤทธิ์รักษาตามตำรับยา ดังนี้

  • รักษาความดันโลหิตสูง - เอาเปลือกกล้วยหอมสด 30-60 กรัม ต้มเอาน้ำดื่ม ถ้าเอาปลีกล้วยต้มรับประทานเป็นประจำ จะช่วยป้องกันเส้นเลือดในสมองแตกได้

  • รักษาริดสีดวงทวาร แก้ท้องผูก - รับประทานกล้วยหอมสุกตอนเช้า ขณะท้องว่างวันละ 1-2 ผล ทุกวัน

  • รักษามือเท้าแตก - เอากล้วยหอมที่สุกเต็มที่ เจาะรูเล็กๆ ที่ปลายข้างหนึ่ง แล้วบีบเอากล้วยออกมาทาที่เท้าแตก ทิ้งไว้หลายชั่วโมง จึงล้างออก จะรู้สึกดีขึ้น


ที่มา  http://www.rspg.or.th/plants_data/herbs/herbs_13_1.htm

 




Be Happy-Food/Herb

เมนูเด็ดเคล็ดลับเพิ่มน้ำนม- ปลาต้มข่าน้ำใส
สรรพคุณสมุนไพร 200 ชนิด
สมุนไพรขับน้ำนม-กุยช่าย
อารีด่อย อาหร่อยดี น้ำมะขามปั่น Tamarind Smoothie article
สาคูแคนตาลูป
รอยยิ้ม เสียงหัวเราะ article